พรีเมียร์ลีก อังกฤษประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการให้ เวย์น รูนีย์ อดีตกองหน้าตัวยิงในตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ปาทริค วิเอร่า อดีตกองกลางและกัปตันในตำนานของ อาร์เซนอล ได้มีชื่อประดับอยู่ในหอเกียรติยศ หรือ ฮอลล์ ออฟ เฟม (Hall Of Fame) ของ พรีเมียร์ลีก เป็นลำดับที่ 9 และ 10 ตามหลังอดีตนักฟุตบอลในตำนานอีก 8 ราย ที่ได้ประดับชื่อในหอเกียรติยศไปแล้วเมื่อปี 2021 ซึ่งผู้ที่ได้ประดับชื่ออยู่ในหอเกียรติยศลำดับที่ 1-8 ได้แก่ อลัน เชียเรอร์ , เธียร์รี่ อองรี , เอริก คันโตน่า , รอย คีน , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดนนิส เบิร์กแคมป์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เดวิด เบคแฮม ซึ่งนักฟุตบอลทั้งหมดนี้ เป็นนักฟุตบอล 8 คนแรก ที่ได้มีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศของ พรีเมียร์ลีก โดยที่ รูนีย์ และ วิเอร่า เป็นนักฟุตบอลสองรายแรกของปี 2022 ที่ได้เกียรตินี้จาก พรีเมียร์ลีก
ซึ่ง หอเกียรติยศ หรือ ฮอลล์ ออฟ เฟม นี้แต่งตั้งเพื่อนักฟุตบอลที่ค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีจุดประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรตินักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างสูงสุด และเป็นนักฟุตบอลที่มีส่วนร่วมสำคัญใน พรีเมียร์ลีก โดยมีจัดตั้งขึ้นในปี 2020 และเริ่มมีการประดับชื่อเป็นครั้งแรกหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2020-21 ซึ่งนักฟุตบอลชุดแรกที่ได้ประดับในหอเกียรติยศ คือ แข้งในตำนาน 8 รายที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งนักฟุตบอลที่ได้รับคัดเลือกนี้ ทาง พรีเมียร์ลีก ได้พิจารณาตามเกณฑ์ที่ได้ตั้งไว้หลากหลายข้อ ดังนี้
• ทำการแข่งขันในศึก พรีเมียร์ลีก โดยมีจำนวนนัดมากกว่า 200 นัด ใน 1 สโมสรที่เคยสังกัด
• เป็นนักฟุตบอลที่สังกัดในทีมที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ หรือ ทีมที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในรอบ 20 ปี
• เป็นนักฟุตบอลที่ได้รับรางวัล รองเท้าทองคำ (Golden Boot , รางวัลที่มอบแก่นักฟุตบอล ผู้ทำประตูรวมสูงสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย) หรือ นักฟุตบอลที่ได้รับรางวัล ถุงมือทองคำ (Golden Glove , รางวัลที่มอบแก่ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม)
• เป็นนักฟุตบอลที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
• เป็นนักฟุตบอลที่เคยชนะในศึก พรีเมียร์ลีก จำนวน 3 สมัย
• เป็นนักฟุตบอลที่เคยทำประตูในศึก พรีเมียร์ลีก ได้เป็นจำนวน 100 ประตู หรือ หากเป็นผู้รักษาประตู ต้องเป็นผู้ที่เคยทำคลีนชีทในศึก พรีเมียร์ลีก ได้เป็นจำนวน 100 นัด
ซึ่ง เวย์น รูนีย์ เป็นนักฟุตบอลที่เข้าสู่วงการลูกหนังด้วยการแจ้งเกิดกับสโมสร เอฟเวอร์ตัน และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สูงสุดถึง 5 ฤดูกาล (ฤดูกาลที่ 2012-13 , 2010-11 , 2008-09 , 2007-08 และ 2006-07) ในสมัยที่เขาค้าแข้งยังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด จำนวนที่ลงสนามทั้งหมดใน พรีเมียร์ลีก ของ รูนีย์ รวมแล้วมีมากถึง 491 เกม และทำประตูไปทั้งสิ้น 208 ประตู ซึ่งทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 น้อยกว่า อลัน เชียเรอร์ ซึ่งเป็นอันดับ 1 ที่ 260 ประตู ทำแอสซิสต์จำนวน 103 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 3 น้อยกว่า ไรอัน กิกส์ และ เชสก์ ฟาเบรกัส ตามลำดับ นอกจากนี้ เขายังคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลที่ 2009-10 และ รางวัล ประตูยอดเยี่ยม ในฤดูกาลที่ 2004-05 และ 2010-11 อีกด้วย โดย รูนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์เผยความรู้สึกที่ได้มีชื่ออยู่ใน หอเกียรติยศ ในครั้งนี้ว่า
“ เป็นเกียรติอย่างมากที่ผมได้รับคัดเลือกให้มีชื่ออยู่ใน หอเกียรติยศของพรีเมียร์ลีก ร่วมกับนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมหลายคน ตั้งแต่ผมยังเด็กและเริ่มจำความได้ ผมก็มีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลแล้ว และผมเติบโตมากับมัน และมีความฝันว่า จะต้องเป็น นักฟุตบอลอาชีพที่ทำประตูได้มากมาย และ จะต้องคว้าแชมป์มาให้ได้ ซึ่งผมโชคดีอย่างมาก ที่ทำความฝันได้สำเร็จ และคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาได้ถึง 5 ฤดูกาลด้วยกัน
สมัยที่ผมเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น ผมมีความทรงจำมากมายที่นั่น และภูมิใจมากๆกับความสำเร็จที่ผมสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง และแน่นอนอย่างยิ่งว่า การได้รับคัดเลือกให้มีชื่ออยู่ใน หอเกียรติยศ ในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดในชีวิตของผมเลยทีเดียว ”
ส่วนทางด้านของ ปาทริค วิเอร่า อดีตมิดฟิลด์ตัวฉกาจผู้สวมปลอกแขนกัปตันทีมของ อาร์เซนอล เป็นผู้เล่นที่มีลีลาในการตัดเกมที่เลื่องลือ และเป็น 1 ในนักฟุตบอลในตำนานของ อาร์เซนอล ชุด ไร้พ่าย ที่คว้าแชมป์แบบไม่แพ้ใครเลยในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 2003-04 และพา ทัพปืนใหญ่ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ถึง 3 ฤดูกาล จำนวนที่ลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก ของเขารวมแล้วมีมากถึง 307 เกม ทำประตูไปทั้งสิ้น 31 ประตู และกับอีก 31 แอสซิสต์ นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลที่ 2000-01 อีกด้วย โดย วิเอร่า ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ การที่ผมได้รับคัดเลือกให้มีชื่ออยู่ใน หอเกียรติยศ ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผม ตอนที่ผมได้ทราบว่าผมได้รับคัดเลือก ทำให้ผมนึกย้อนไปยังวันวาน เมื่อสมัยที่ผมยังเป็นเด็กที่ได้เตะฟุตบอลเล่นใน เซเนกัล และ สมัยที่อาศัยอยู่ในชานเมืองของกรุง ปารีส ผมไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆว่าจะได้มาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ร่วมกับนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากมายขนาดนี้
การได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เกินฝันของผมไปมาก และผมรู้สึกภูมิใจมากๆที่ได้มีชื่อร่วมกับนักฟุตบอลที่สุดยอดเหล่านี้ใน หอเกียรติยศ
ผมโชคดี และดีใจมากจริงๆที่ได้มีชื่อเคียงข้างกับเพื่อนร่วมทีม 2 คนของผม อย่าง เธียร์รี่ อองรี และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าพวกเรานั้นต่างก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมในเส้นทางอาชีพนี้ และผมภูมิใจมากที่สุด กับการได้เป็นแบบอย่างให้กับนักเตะรุ่นใหม่ๆด้วยเช่นกัน ”